เจาะลึกเคล็ด(ไม่)ลับ! สอบเข้ามหาลัยอินเตอร์แบบไม่ต้องขายตับ! 💸 สวัสดีเด็กมัธยมทั้งหลาย! กำลังปวดหัวกับคำถามในใจที่ว่า "จะเข้ามหาลัยอินเตอร์ยังไงดีในเมื่อภาษาอังกฤษยังงง และกระเป๋าก็แบน?"
- Eng for Edu
- Apr 18
- 2 min read
สวัสดีเด็กมัธยมทั้งหลาย! กำลังปวดหัวกับคำถามในใจที่ว่า "จะเข้ามหาลัยอินเตอร์ยังไงดีในเมื่อภาษาอังกฤษยังงง และกระเป๋าก็แบน?" วางใจได้! เพราะวันนี้เรามีสูตรลับมาเปิดเผย ที่จะทำให้คุณก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยอินเตอร์ได้โดยที่พ่อแม่ไม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบ! 🤑
IELTS คืออะไร? ทำไมฟังแล้วน่ากลัวเหมือนชื่อโรคร้าย? 🤔
หลายคนได้ยินคำว่า IELTS แล้วรู้สึกเหมือนถูกผีหลอก! แต่จริงๆ แล้วมันเป็นแค่การสอบภาษาอังกฤษที่ฝรั่งคิดขึ้นมาเพื่อทดสอบว่าคุณพูดภาษาเขาได้รู้เรื่องหรือเปล่า หรือพูดแล้วทำให้เขาหูเลือดกำเดาไหล 👂🩸
SAT ไม่ใช่วันเสาร์ แต่เป็นข้อสอบสุดหลอนของฝรั่ง 📚
SAT คือข้อสอบที่เอาไว้วัดว่าสมองซีกซ้ายของคุณมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ประกอบด้วย Verbal (อ่านภาษาอังกฤษให้ตาไม่เบลอ) และ Math (คณิตศาสตร์ที่อาจทำให้คุณอยากร้องไห้)
งบน้อยแต่ฝันใหญ่? เรามีทางออกให้คุณ! 💰
นี่แหละที่พลาดไม่ได้! คอร์สพิเศษสุดในรอบ 34 ชม. ในราคาเพียง 7,999 บาท! ซึ่งถ้าคิดแบบละเอียด มันเท่ากับ:
ค่าชานมไข่มุกวันละแก้ว เป็นเวลา 4 เดือน
รองเท้าแบรนด์เนม 1 คู่ครึ่ง (ขอแค่ครึ่งข้างก็ยังได้)
ค่าเติมเกมมือถือ 8 เดือน (แต่เอาเงินมาเรียนดีกว่านะ ไม่งั้นติด F แน่ๆ)
ทำไมคอร์สนี้ถึงเด็ดกว่าที่อื่น? 💯
สอนโดยทีมศิษย์เก่าจาก MUIC + ครูจบตรีโทด้านการสอนโดยตรงจากจุฬา (ฟังดูเท่มั้ยล่ะ?)
สอนจนคุณได้ SPEAKING BAND 9!! (พูดภาษาอังกฤษคล่องจนแม่แท้ๆ จำไม่ได้ว่าเป็นลูกตัวเอง)
แถมฟรี! คอร์ส SAT (Verbal, Math) มูลค่า "แพงมากกกก"
รับประกันว่าเมื่อไปนั่งสอบ อย่างน้อยคุณจะรู้ว่าข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ!
เสียงจากคนที่มาเรียนแล้ว (ที่ยังไม่หายตัวไป) 🗣️
"ก่อนเรียนคอร์สนี้ ผมแยกไม่ออกว่า 'ship' กับ 'sheep' ต่างกันยังไง พอเรียนจบ ตอนนี้สามารถพูดได้ว่า 'I want to ship that sheep' ได้อย่างชัดเจน!" - น้องภูมิ
"ตอนแรกกลัวมากเลยค่ะ คิดว่า IELTS ต้องยากแน่ๆ แต่พอเรียนจบกลับพบว่า... มันก็ยากนั่นแหละค่ะ แต่อย่างน้อยก็รู้แล้วว่ายากตรงไหน!" - น้องเมย์
สมัครเลย! ก่อนที่โอกาสทองจะหลุดลอยไปกับสายลม 🌬️
จำไว้! ไม่มีความฝันไหนไกลเกินเอื้อม มีแต่เงินในกระเป๋าที่ไม่พอเท่านั้นแหละ! สมัครเลย! 💸💸💸
ปล.โพสต์นี้ทีมงานใช้ AI ช่วยเขียนถ้ากวนเส้นไปบ้าง ขออภัยครับ 55555
IELTS และ SAT คืออะไร? เข้าใจง่าย สอบอย่างไรให้ผ่าน
สำหรับน้องๆ ที่กำลังวางแผนเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ คงเคยได้ยินชื่อการสอบ IELTS และ SAT กันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังไม่เข้าใจว่าการสอบเหล่านี้คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และควรเตรียมตัวอย่างไรให้ผ่านฉลุย บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจทั้งหมดที่คุณอยากรู้
IELTS คืออะไร?
IELTS (International English Language Testing System) เป็นการสอบวัดระดับความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา และ อเมริกา ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษากว่า 11,000 แห่งทั่วโลกที่ยอมรับผลสอบ IELTS เป็นเกณฑ์ในการรับเข้าศึกษาต่อ
IELTS แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก:
IELTS Academic - สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
IELTS General Training - สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานหรือย้ายถิ่นฐานในต่างประเทศ
การสอบ IELTS ประกอบด้วย 4 ทักษะ:
Listening (การฟัง) - ใช้เวลา 30 นาที โดยฟังบทสนทนาและบทความต่างๆ แล้วตอบคำถาม
Reading (การอ่าน) - ใช้เวลา 60 นาที มีบทความให้อ่านและตอบคำถาม
Writing (การเขียน) - ใช้เวลา 60 นาที ประกอบด้วยการเขียน 2 ชิ้นงาน
Speaking (การพูด) - ใช้เวลาประมาณ 11-14 นาที เป็นการสัมภาษณ์กับผู้ทดสอบ
ผลคะแนน IELTS จะอยู่ในช่วง 0-9 คะแนน โดยคะแนน 6.0-7.0 มักเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำที่มหาวิทยาลัยกำหนด แต่อาจแตกต่างกันไปตามสถาบันและสาขาวิชา
SAT คืออะไร?
SAT (Scholastic Assessment Test) เป็นการสอบมาตรฐานที่ใช้ในการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกาและมหาวิทยาลัยในหลายประเทศทั่วโลก การสอบนี้จัดโดย College Board เพื่อวัดความพร้อมของนักเรียนในการเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย
SAT แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก:
Evidence-Based Reading and Writing (การอ่านและการเขียนโดยอาศัยหลักฐาน) - เน้นทักษะการอ่าน การวิเคราะห์ และการเขียน
Reading Test - อ่านบทความและตอบคำถาม
Writing and Language Test - แก้ไขข้อผิดพลาดในบทความ
Math (คณิตศาสตร์) - ทดสอบความสามารถทางคณิตศาสตร์ในระดับมัธยมปลาย
Calculator Section - ส่วนที่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลข
No Calculator Section - ส่วนที่ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลข
คะแนนรวมของ SAT อยู่ระหว่าง 400-1600 คะแนน โดยแต่ละส่วนมีคะแนนตั้งแต่ 200-800 คะแนน
ข้อสังเกต: ตั้งแต่ปี 2023 SAT ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอบเป็นแบบดิจิทัลทั้งหมด และลดระยะเวลาสอบจาก 3 ชั่วโมง เหลือเพียง 2 ชั่วโมง
เตรียมตัวสอบ IELTS อย่างไรให้ได้คะแนนดี?
1. ฝึกฝนทุกทักษะอย่างสม่ำเสมอ
การเตรียมตัวสอบ IELTS ควรฝึกฝนทั้ง 4 ทักษะควบคู่กันไป โดยเฉพาะทักษะที่เป็นจุดอ่อนของคุณ
ฝึกฝน Listening:
ฟังข่าว พอดแคสต์ หรือรายการภาษาอังกฤษทุกวัน
ฝึกจับใจความสำคัญและรายละเอียด
ทำแบบทดสอบที่มีรูปแบบเหมือนข้อสอบจริง
ฝึกฝน Reading:
อ่านบทความภาษาอังกฤษจากหลากหลายสาขา เช่น วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์
ฝึกการอ่านแบบ skimming (อ่านคร่าวๆ) และ scanning (อ่านเฉพาะจุด)
ควบคุมเวลาในการอ่านและตอบคำถาม
ฝึกฝน Writing:
เรียนรู้โครงสร้างการเขียน Task 1 และ Task 2
ฝึกเขียนตามหัวข้อที่หลากหลาย
ให้ผู้รู้ตรวจและแนะนำ
ฝึกฝน Speaking:
พูดภาษาอังกฤษทุกวัน แม้จะเป็นการพูดคนเดียว
ฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์แบบ IELTS
บันทึกเสียงตัวเองและฟังเพื่อปรับปรุง
2. เรียนรู้รูปแบบข้อสอบและเทคนิคการทำข้อสอบ
การรู้จักรูปแบบข้อสอบและเทคนิคการทำข้อสอบจะช่วยให้คุณทำข้อสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น:
ศึกษาคำถามและคำตอบที่พบบ่อยในข้อสอบ
เรียนรู้วิธีการจัดการเวลาในแต่ละส่วน
ทำความเข้าใจเกณฑ์การให้คะแนน
3. เรียนคอร์สเตรียมสอบกับผู้เชี่ยวชาญ
การเรียนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณ:
เข้าใจจุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเอง
ได้รับคำแนะนำเฉพาะทางเพื่อการพัฒนา
ได้รับข้อเสนอแนะที่ตรงจุด
4. ทำข้อสอบเก่าและแบบฝึกหัด
การทำข้อสอบเก่าและแบบฝึกหัดจะช่วยให้คุณ:
คุ้นเคยกับรูปแบบของข้อสอบ
ฝึกการบริหารเวลา
ประเมินความพร้อมของตัวเอง
เตรียมตัวสอบ SAT อย่างไรให้ได้คะแนนสูง?
1. เรียนรู้รูปแบบและเนื้อหาของข้อสอบ
สิ่งสำคัญในการเตรียมตัวสอบ SAT คือการเข้าใจว่าข้อสอบจะทดสอบอะไรบ้าง:
ทำความเข้าใจเนื้อหาและโครงสร้างของข้อสอบแต่ละส่วน
ศึกษาเทคนิคการตอบคำถามแต่ละประเภท
ฝึกทำข้อสอบตามรูปแบบจริง
2. พัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน
ส่วนสำคัญของ SAT คือการทดสอบทักษะการอ่านและการเขียน:
อ่านบทความหลากหลายประเภท เช่น บทความวิชาการ วรรณกรรม งานเขียนทางประวัติศาสตร์
ฝึกการวิเคราะห์และตีความข้อมูล
พัฒนาคลังคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับวิชาการ
3. ทบทวนความรู้คณิตศาสตร์
ส่วนคณิตศาสตร์ของ SAT ครอบคลุมเนื้อหาระดับมัธยมปลาย:
ทบทวนพีชคณิต เรขาคณิต ตรีโกณมิติ และสถิติ
ฝึกแก้โจทย์ปัญหาแบบที่พบในข้อสอบ
ฝึกทำข้อสอบทั้งแบบที่ใช้และไม่ใช้เครื่องคิดเลข
4. ฝึกทำข้อสอบจริง
การฝึกทำข้อสอบจริงจะช่วยให้คุณ:
คุ้นเคยกับรูปแบบคำถาม
พัฒนาเทคนิคการบริหารเวลา
ระบุจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง
5. เรียนคอร์สเตรียมสอบ
การเรียนคอร์สเตรียมสอบกับผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณ:
เข้าใจเทคนิคการทำข้อสอบที่มีประสิทธิภาพ
ได้รับคำแนะนำเฉพาะทางเพื่อการพัฒนา
มีแนวทางการเรียนที่เป็นระบบ
การเลือกคอร์สเตรียมสอบที่เหมาะสม
การเลือกคอร์สเตรียมสอบที่เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการสอบ IELTS และ SAT
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกคอร์สเตรียมสอบ:
ประสบการณ์ของผู้สอน - ผู้สอนที่มีประสบการณ์สูงจะสามารถให้คำแนะนำที่มีประโยชน์และแก้ไขจุดอ่อนของคุณได้อย่างตรงจุด
ขนาดของชั้นเรียน - ชั้นเรียนขนาดเล็กจะช่วยให้คุณได้รับความสนใจจากผู้สอนมากขึ้น
หลักสูตรที่ครอบคลุม - หลักสูตรควรครอบคลุมทุกส่วนของการสอบและมีการฝึกฝนที่เพียงพอ
สื่อการสอนและแบบฝึกหัด - สื่อการสอนและแบบฝึกหัดที่มีคุณภาพจะช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความคุ้มค่า - พิจารณาราคาของคอร์สเทียบกับคุณภาพและผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้รับ
ความสำเร็จในการสอบ IELTS และ SAT
ความสำเร็จในการสอบ IELTS และ SAT ไม่ได้เกิดจากการเตรียมตัวระยะสั้นแต่เป็นผลจากการเตรียมตัวอย่างต่อเนื่องและมีระบบ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ:
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน - รู้ว่าคุณต้องการคะแนนเท่าไรและเพื่อวัตถุประสงค์อะไร
การวางแผนการเรียนที่เป็นระบบ - มีแผนการเรียนที่ชัดเจนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ความสม่ำเสมอในการฝึกฝน - ฝึกฝนทุกวันแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ
การวิเคราะห์และปรับปรุงตนเอง - ระบุจุดอ่อนและทำงานเพื่อปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ทัศนคติที่ดี - มีความเชื่อมั่นและทัศนคติเชิงบวกต่อการเรียนและการสอบ
สรุป
IELTS และ SAT เป็นการสอบมาตรฐานที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ การเข้าใจรูปแบบและเนื้อหาของการสอบ การเตรียมตัวอย่างมีระบบ และการเลือกคอร์สเตรียมสอบที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการสอบเหล่านี้
Comments